วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2560

[แปลไทย] AKB48 Team 4 - Me wo Aketa mama no First kiss

AKB48 Team 4 - Me wo Aketa mama no First kiss
"จุมพิตแรกเมื่อยามลืมตา"


陽が沈みかけたロッカールーム
忘れものを取りに行ったら 
กลับไปเอาของที่ลืมไว้ที่ลอคเกอร์
เมื่อยามอาทิตย์ย่ำอัสดง 
部活が終わったあなたがいて
一方的なサプライズ 「これから帰るの?」なんて
私がぎこちなく聞いて 
เจอเธอที่เพิ่งเลิกชมรมอยู่ตรงนั้น
ด้วยความตกใจ เอ่ยถามไปอย่างอึกอัก
"จะกลับแล้วเหรอ ?"
1メートルの友達ライン
どっちから越えるのだろう
เส้นกั้น1เมตรแห่งความเป็นเพื่อน
ใครจะข้ามมันเข้ามาก่อนกันนะ ?
 キスは キスは キスは
振り向き様
突然の甘い蜜の味
手を回すのも忘れるほど
จุมพิต จุมพิต จุมพิตนั้น
เกิดขึ้นชั่วขณะเมื่อหันไป
สัมผัสถึงรสหวานปานน้ำผึ้ง
หลงลืมสิ่งที่ตั้งใจจะทำจนหมดสิ้น
 唇 つんと突き出した
両目を開けたまま
ファーストキス
ริมฝีปากย่นยื่นออก
พร้อมสองนัยน์ตาที่เบิกกว้าง
กับจูบแรกนี้
 廊下の向こうに人の気配
あわててすぐ 離れる2人
ホントは誰かに見られてもいい
愛し合ったエビデンス 
รู้สึกถึงผู้คนที่เดินผ่านระเบียง
เราสองคนแยกจากกันอย่างเร่งรีบ
จริงๆแล้วใครจะเห็นก็ไม่เป็นไรหรอกนะ
มันเป็นหลักฐานแห่งรักของเรา
「じゃあな」なんてぶっきらぼうに
あなたが背中向けるけど
重たすぎない秘密のライン
お互いに守りましょうね 
"ไว้เจอกัน" เธอพูดออกมาห้วนๆ
และหันแผ่นหลังหนีไป
เส้นกั้นแห่งความลับนี้ที่ไม่ได้สลักสำคัญนัก
 มาปกป้องมันไว้ด้วยกันเถอะ
好きよ 好きよ 好きよ
ずっと前から 
 รัก รัก รักนะ
หลงรักเธอเสมอมา
片思い 意識してたけど
抱き寄せられて 何も言えず
รักข้างเดียวนี้ ถึงจะรู้สึกตัวมาตลอด
ดึงตัวฉันไว้ในอ้อมกอด โดยไม่เอ่ยคำใด 
ハートを盗まれたように
あなたが近すぎる
ファーストキス
อยู่ใกล้เธอเกินไป..จนเหมือนหัวใจถูกช่วงชิง
กับจูบแรกนี้
 キスは キスは キスは
振り向き様
突然の甘い蜜の味
手を回すのも忘れるほど
จุมพิต จุมพิต จุมพิตนั้น
เกิดขึ้นชั่วขณะเมื่อหันไป
สัมผัสถึงรสหวานปานน้ำผึ้ง
หลงลืมสิ่งที่ตั้งใจจะทำจนหมดสิ้น
 唇 つんと突き出した
両目を開けたまま
ファーストキス
ริมฝีปากริมฝีปากเม้มย่นยื่นออก
พร้อมสองนัยน์ตาที่เบิกกว้าง
กับจูบแรกนี้ 

วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559


ย้ายที่ทำการไปที่นี่ >>SKE65<< แล้วนะคะ :)
ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

วันศุกร์ที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2557

(สิ่งที่รู้สึก・ω・พักนี้)
เรนะค่ะ(・ω・) 
ช่วงหลายๆวันมานี้คิดอะไรหลายอย่างมาก
ก็เลยตัดสินใจเขียนความรู้สึกทั้งหลายนั้นลงในนี้อีกครั้ง

เป้าหมายของพวกเราคือการทำให้ฝันของตัวเองเป็นจริง
เป็นพวกคุณทุกคนที่คอยให้กำลังใจ คอยสนับสนุนพวกเราเสมอมา
ดังนั้นพวกเราคิดว่าเราต้องทำอะไรซักอย่างเพื่อพวกคุณให้ได้ ให้พวกคุณมีความสุข
ให้พวกคุณรู้สึกว่าเราอยากจะก้าวไปข้างหน้าด้วยกัน
หลายต่อหลายสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกเจ็บปวด
อย่างการจบการศึกษาของเมมเบอร์ หรือการที่พวกเราไม่สามารถประกาศเล่นไลฟ์เพิ่มกันได้ก็ย่อมมีเกิดขึ้น
ถึงแบบนั้น ฉันกลับไม่รู้สึกว่านี่คือทางตัน แต่เป็นช่วงเวลาที่แสนสำคัญของพวกเรา
ที่จำเป็นต้องมี เพื่อที่จะก้าวหน้าไปอีกขั้น
เมมเบอร์ในวงมีการเปลี่ยนแปลงไปมากหลังจากการชัฟเฟิลกรุ๊ป นี่เป็นสิ่งที่รู้สึกได้ชัดเจนเมื่อขึ้นไปยืนบนเวที
ความเปลี่ยนแปลงช่างน่ากลัว และทำให้โศกเศร้า
แต่ก็จำเป็นเหมือนกัน ที่จะต้องสัมผัสมัน
การที่ไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้มันเจ็บปวดจริงๆ ทั้งพวกเราและทีมสตาฟก็กำลังคิดเรื่องเปลี่ยนแปลงกันอยู่
และแน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นจะไม่ทำลาย SKE ลงไปแน่นอน

เรายังต้องการอย่างแรงกล้าที่จะให้ผู้คนมากมายรู้จักเรามากขึ้นเรื่อยๆ
เรายังหวังให้ผู้คนทั้งหลายมาดูการแสดงสเตจหรือไลฟ์ของพวกเรา (TL note : ไหนไลฟ์...)
และเราก็อยากให้พวกคุณได้มีความสุข ที่เห็นพวกเรากางปีกบินขึ้นไปสู่เวทีที่ใหญ่ยิ่งขึ้น

ฉันรู้ค่ะ ว่าความเห็นของทุกคนนั้นไม่มีทางเหมือนกัน และความเห็นของพวกคุณนั้นก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวังดี

หลายครั้งที่ความรู้สึกของพวกเราเมมเบอร์ ได้ถูกสื่อออกมาผ่านทางพวกคุณ
ฉันหวังนะคะ ว่าแม้แต่ในช่วงเวลานี้ พวกคุณจะยังคงเชื่อมั่นในตัวพวกเราและคอยสนับสนุนพวกเราอยู่
บางทีคงไม่่มีใครที่ไหนนอกจากไอดอลอีกแล้ว ที่จะกล้าขออะไรเห็นแก่ตัวแบบนี้
แต่จะทำให้เต็มที่ที่สุดเพื่อที่พวกคุณจะได้รู้สึกแบบนั้นกัน

ถ้าให้เดาตอนนี้พวกคุณคงรู้สึกไม่ดีกันอยู่แน่ๆ ทั้งเรื่องทัวร์และเรื่องกิจกรรมของวง SKE โดยทั่วไป
แต่ทัวร์ มันต้องมีเกิดขึ้นแน่ๆค่ะ ช่วยรอกันอีกซักนิดนะ
ฉันอยากที่จะลดระยะห่างที่อยู่ๆก็เพิ่มมากขึ้นนี้ให้ได้

ระหว่างที่คิดเรื่องพวกคุณมากขึ้น มากขึ้น ฉันก็จะพยายามให้มากกว่าเดิม
เพื่อที่จะได้เห็นสีหน้ายิ้มแย้มบนใบหน้าของทุกคน


(เร・ω・นะ)

วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

[SKE48] ข้อความสุดท้ายของมานัทสึ

"ค่ะ..วันนี้ก็จะจบการศึกษาจากSKE48แล้ว
ช่วงที่เข้าSKEมาเป็นช่วงเดียวกับที่ขึ้นม.ต้นพอดี
แรงบันดาลใจคืออะไรกันนะ..โดนคนถามมาเยอะแยะเหมือนกันว่า"ทำไมถึงมาออดิชั่นเข้าSKE?" เอาจริงๆ ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

ถึงเพื่อนจะเป็นคนชวนมาออดิชั่นด้วยกันก็เถอะ..แต่ก็..(หัวเราะ)
ฉันเป็นคนพูดต่อหน้าคนมากๆไม่เก่ง ก็ยังสงสัยว่าตัวเองมาถึงจุดนี้ได้ยังไง

แต่ว่านะ คงเป็นเพราะเพือนๆรุ่นสองและทีมKIIที่ทำให้ฉันมาได้ถึงขนาดนี้
สิ่งเหล่านั้นทำให้ฉันเป็นตัวฉันอย่างทุกวันนี้ค่ะ

ถ้าไม่ใช่รุ่น2 ถ้าไม่ได้อยู่ในทีมKII คิดว่าตัวเองก็คงจะจบการศึกษาไปนานแล้วและไม่ได้มายืนอยู่่ตรงนี้
ตอนที่เราแสดงสเตจ Aitakatta (tln:สเตจแรกของทีมKII) ฉันได้รับตำแหน่งใน Nagisa no Cherry (tln:ตำแหน่งอัตจัง)
ฉันที่ไม่ได้เข้าใจความหนักหนาของมันแต่ก็แค่พยายามเต็มที่ที่สุด
ในช่วงนั้นเพื่อนๆที่แสดงร่วมกัน ทั้งมิเอปิ (tln:เน่ซัง) และคนอื่นๆก็คอยเฝ้ามองดูแลฉันอยู่เสมอ
ถ้าไม่ใช่เพราะแบบนั้น ฉันคงจบการศึกษาไปนานแล้วค่ะ
ที่มาได้ถึงทุกวันนี้ต้องขอบคุณพวกเค้าจริงๆ

แล้วก็มีเรื่องราวเจ็บปวดอยู่มากมายด้วยเหมือนกัน
ผู้คนพากันเอาฉันไปเปรียบเทียบกับนู่นกับนี่ แต่ด้วยความที่ตัวเองเป็นเด็กดื้อ (หัวเราะ) ก็เลยไม่เก็บมาคิดอะไรมาก
สุดท้ายก็มาได้ถึงขนาดนี้ล่ะค่ะ

เวลาถูกถามว่า "คิดว่าได้ฝากอะไรให้SKE48ไว้บ้างไหม?"
ก็ตอบกลับไปทันทีไม่ได้เหมือนกันนะ
แต่ก็เชื่อว่า 5 ปี ใน SKE48ของฉันไม่ใช่สิ่งที่สูญเปล่า
ในทางกลับกันมันคือ "5 ปีแห่งปาฎิหาริย์"

จะพิสูจน์ว่า 5 ปีของฉันในSKE48ไม่ใช่อะไรที่ไร้ค่า และจะตอบแทนครอบครัว เพื่อนๆเมมเบอร์ สตาฟทุกคนที่คอยสนับสนุนฉันมาตลอดให้ได้ด้วยการสร้างทางเดินใหม่ของตัวฉัน เอง

ขอบคุณทุกๆคนที่คอยสนับสนุน SKE48 มุไคดะ มานัทสึ เสมอมาตลอด 5ปีนะคะ"

วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

[ซคอ๔๘] จดหมายวันเกิดจากคุณพ่อคุณแม่ถึง อาซึมะ ริอง

ดองบลอคไปนานนนนนน ฮา
ตอนปิดเทอมคิดว่าจะแปลนู่นแปลนี่แต่สุดท้ายแล้วดันยุ่งกว่าตอนเปิดเทอมอีก
เลยไม่ได้แปลอะไรเลยค่ะ ทั้งๆที่คิดว่าจะแปลนู่นแปลนี่เยอะแยะ ;-;
เมื่อวาน(12/11/2013)เป็นสเตจวันเกิดหนูริอง
หนูน้อยชื่อเล่น(แอซมาเลี่ยน...)ยาวกว่าชื่อจริง(ริอง..)ที่น่ารักเด็ดเดี่ยว
เดินทางไกลจากเมืองเหนือฮอกไกโด มาตามหาความฝันถึงนาโกย่า ที่SKE48 :)

หนูริองถึงจะทำหน้ามึนๆ บอกว่าตัวเองเต้นไม่ค่อยเก่งแต่ก็เป็นเด็กจริงจัง ซื่อ และมุ่งมั่นไม่แพ้ใคร
ที่สำคัญคือมีพรสวรรค์และมีของไม่แพ้ใคร(นี่อวยยั้งง?)
เด็กแบบนี้อยากจะสนับสนุนต่อไปนะ ><  จดหมายของคุณพ่อ-คุณแม่ อบอุ่นและกินใจมาก เลยเลือกมาแปลแซะเกลือออกจากบลอคค่ะ...  ริองมีครอบครัวที่ดีจริงๆนะ

ผู้อ่าน : อุเมะโมโตะ มาโดกะ



ถึง ริอง

ริอง สุขสันต์วันเกิดครบรอบ17ปีนะ!
เมื่อปีที่ผ่านมานี้ทั้งสูงขึ้น(ถึงจะบอกว่าหยุดสูงแล้วก็เถอะ)
แล้วจิตใจของหนูก็ยังกว้างขวางขึ้นกว่าเดิม

หลังจากที่ออดิชั่นผ่านเมื่อหนึ่งปีก่อน ริองร้องไห้พลางบอกว่า
"ไม่อยากย้ายออกจากฮอกไกโด!"

แต่เสียงคุณพ่อที่ดังผ่านหูโทรศัพท์ว่า
"พูดอะไรของเธอ!? จะมายอมแพ้อะไรตอนนี้ เธอต้องไปนะ!"
ก็ทำให้ริองมุ่งมั่นขึ้นมาจนได้



พอถึงเวลาที่ต้องไปฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง
พวกเราก็ไปกลับรับส่งระหว่างสถานที่ซ้อมและที่บ้าน
แล้วริองที่เริ่มเป็นห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย

ก็ทำเป็นเข้มแข็งขึ้นมา พูดอะไรประมาณว่า "ริองไปคนเดียวได้ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ!"

ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วจะเครียดมากเลยก็เถอะ ต้องทั้งขึ้นเครื่องบินคนเดียว
ทั้งค้างคืนในโรงแรมในเมืองที่ไม่แม้แต่จะคุ้นเคย
เพื่อที่จะไปห้องซ้อมให้ได้

ริองพยายามอย่างดีที่สุดแล้วจริงๆ

กับการที่ต้องจากไปทั้งๆที่ไม่มีโอกาสได้บอกลาเพื่อนๆซักคำ มันยากมากใช่ไหม
ทั้งหาโรงเรียนใหม่ ทั้งต้องหาห้องให้ริองอยู่ จองเที่ยวบินและโรงแรม..
ทั้งป่ะป๊ามะหม๊าสับสนมาก เหมือนหัวจะระเบิด
"เราต้องทำอะไรบ้างเนี่ย!? ต้องเริ่มยังไง!?" รู้สึกแบบนี้

แต่เรามั่นใจว่าหนูต้องทั้งกังวลใจและเครียดมากกว่าเราแน่ๆ ริอง

ในตอนนั้นกับการคิดว่าครอบครัวของเราจะต้องแยกจากกันมันเศร้ามากจริงๆ จนปะป๊ากับมะหม๊าร้องไห้กันแทบทุกวันทุกครั้งที่อยู่คนเดียว

พวกเราต่างเป็นคนติดครอบครัว ดังนั้นไม่ว่าจะไปที่ไหน ไม่ว่าจะทำอะไร เราก็อยู่ด้วยกันมาตลอด..

การต้องแยกจากกันนั้นเจ็บปวด แต่พวกเราคิดว่าประสบการณ์ในครั้งนี้จะทำให้ริองเข้าใจแจ่มแจ้งว่าชีวิตธรรมดาๆที่ริองเคยสัมผัสนั้นมันมีความสุขยังไง

หลังจากที่ริองเริ่มทำงานในฐานะ SKE48ก็เปล่งประกายอยู่เสมอ
พวกเรารอคอยที่จะได้ฟังเรื่องราวต่างๆจากหนูทุกครั้ง


แต่เรื่องยากลำบากก็มีเหมือนกันใช่ไหม?

พอริองบอกว่าในไกชิคอนเสิร์ท
"โดนธงฟาดที่จมูกจนเลือดไหลค่ะ แต่ก็ยังเต้นต่อไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นด้วยรอยยิ้ม"
พวกเราถึงกับร้องไห้ แต่ได้เห็นริองที่เคยเป็นเด็กขี้แยร้องไห้ทุกครั้งที่เจ็บ
กลายเป็นเด็กที่เข้มแข็งแบบนี้
ก็รู้สึกขึ้นมาว่า ตอนนี้ริองเป็นไอดอลแล้วจริงๆ

มีครั้งนึงที่เครื่องจากฮอกไกโดมานาโกย่าเกิดดีเลย์ และริองไปถึงสนามบินตอนตีสอง
ติดต่อไม่ได้ทั้งทางโทรศัพท์และที่สนามบิน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เรากังวลจนรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็นเลยนะ!

ปะป๊าอยากมาดูริองเต้นในสเตจวันเกิดมาก ยกโทษให้เค้าด้วยนะที่มาไม่ได้เพราะติดงาน

ในMeigen Doujou ที่ริองถูกถามว่า "รักคุณพ่อมั้ย?"
และหนูตอบไปว่า "รักมาก!!"

ปะป๊าดีใจมากจนร้องไห้เชียวล่ะ
พวกเราภูมิใจที่เลี้ยงริองให้โตมาเป็นเด็กที่ซื่อตรงแบบนี้


หลังจากย้ายไปนาโกย่า ริองก็เริ่มคิดถึงพวกเรามากขึ้น ทำตัวเข้มแข็ง
ด้านนี้ของริองคล้ายกับปะป๊ามาก เราก็เลยเข้าใจได้ว่าริองคิดอะไรอยู่
ขอบใจนะที่คอยเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของปะป๊ากับมะม๊า

ลำบากน่าดูถ้าเกิดจะมาเพราะนี่มันก็ไกลอยู่ แต่ปะป๊าจะมาดูสเตจให้ได้!
แน่นอนว่าริองต้องยุ่งมากแน่ๆแต่ดูแลตัวเองดีๆนะ แล้วก็พอมะม๊าไปหาเมื่อไหร่
ก็อย่าลืมไปอ้อนหน่อยล่ะ!

หลังจากที่เลื่อนขึ้นทีม ริองเต้นไม่ได้และลำบากมากกับการจดจำอะไรใหม่ๆมากมาย
แต่รุ่นพี่ทั้งหลายก็ยังช่วยสอนนู่นนี่ให้ริองอย่างกระตือรือร้น
พวกเราจำได้ชัดกับตอนที่ริองมาบอกว่า

"ทุกคนดูแลหนูดีและอ่อนโยนมากๆเลยค่ะ SKEเนี่ยมีแต่คนดีๆทั้งนั้น จริงๆนะ!!"
เพราะSKEเป็นวงแบบนี้แหละ ที่ทำให้ริองพยายามอย่างเต็มที่มาได้ถึงตอนนี้
และพวกเราเชื่อว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ริองก็จะผ่านมันไปได้

การที่ริองได้อยู่ ณ ตรงนั้น ในวันนี้
ต้องขอบคุณแรงสนับสนุนและเสียงเชียร์จากแฟนๆทุกคน

ทั้งเหล่าเมมเบอร์และสตาฟ
ขอให้มุ่งหน้าต่อไปอย่างเป็นตัวของตัวเองโดยไม่ลืมความรู้สึกขอบคุณนี้นะ?

ถึงตัวจะห่างไกล แต่พวกเรายังอยู่ด้วยกันเสมอ

จาก ปะป๊าและมะหม๊า




credit : mahoushoujoari

สุขสันต์วันเกิดหนูริอง♥

วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2556

[เร็นไอริน] "ไอรินผูกเนคไทให้เค้าล่ะ..."มัตสึอิ เรนะ G+ 2011/12/18

อยู่ๆก็คิดขึ้นมาว่าอยากรวมโมเมนท์คู่นี้...แต่มันเยอะมากจนไม่รู้จะทำยังไงดี

เลยคิดว่าเอาอันที่ถูกใจมาแปลแปะๆแบบนี้ละกันค่ะ555555555

โครงการ "เร็นไอรินโมเมนท์" สตาร์ท!!

เริ่มด้วยโมเมนท์ที่ทำให้เราชอบคู่นี้ครั้งแรกนะคะ......orz



มัตสึอิ เรนะ G+ 2011/12/18


งานจับมือกำลังจะเริ่มแล้วค่ะ

ไอรินผูกเนคไทให้ล่ะ (・ω・)

ขอโทษนะคะ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต้นที่สุดในรอบศตวรรษเลย(;´д`) แฮ่ก แฮ่ก